หนึ่งในไฮไลต์ของการเดินทางมาประเทศญี่ปุ่นคือการได้ผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อน ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีบ่อน้ำพุร้อนหรือออนเซ็นอยู่เป็นจำนวนมาก คุณจะพบออนเซ็นได้ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในเมือง ป่า และชายฝั่ง แต่หนึ่งในจุดที่ดีที่สุดในการเพลิดเพลินกับออนเซ็นก็คือในภูเขาและบริเวณรอบๆ จังหวัดกิฟุไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยธรรมชาติทั้งภูเขาและป่าไม้ซึ่งกินพื้นที่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของจังหวัดเท่านั้น ที่นี่ยังเต็มไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนที่ห้อมล้อมไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การเรียนรู้วิธีเพลิดเพลินและประโยชน์จากออนเซ็นเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจศิลปะแห่งความผ่อนคลายแบบญี่ปุ่นและองค์ประกอบของวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้มากขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับออนเซ็นที่ได้รับคัดเลือกในจังหวัดกิฟุ พร้อมทั้งชุมชนที่อยู่โดยรอบ ประเพณี และงานฝีมือต่างๆ
ออนเซ็นหรือบ่อน้ำพุร้อนสามารถแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ได้หลายประเภท ตัวอย่างเช่น ในร่มหรือกลางแจ้ง (โรเท็นบุโระ) ตามภูมิประเทศ คุณลักษณะและสรรพคุณของน้ำพุร้อน เช่น การบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ เส้นประสาท และอาการเจ็บป่วยอื่นๆ
ก่อนจะเข้าแช่ในบ่อน้ำพุร้อน คุณควรตระหนักถึงกฎทั่วไปดังนี้ ปฏิบัติตามการแบ่งเพศของบ่อเสมอ (บางแห่งอาจเป็นบ่อรวม) ทำความสะอาดและชำระล้างร่างกายก่อนลงแช่น้ำเสมอ ห้ามนำเสื้อผ้าหรือผ้าเช็ดตัวใด ๆ ลงในบ่อ และรักษาความสงบ
นางาระงาวะออนเซ็น: บ่อน้ำพุร้อนแห่งประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมประเพณี และงานฝีมือมาบรรจบกัน
นางาระงาวะออนเซ็นเป็นย่านบ่อน้ำพุร้อนในเมืองกิฟุ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนางาระและภูเขาคินกะที่ด้านบนเป็นที่ตั้งของปราสาทกิฟุ ซึ่งอดีตเคยเป็นที่อาศัยของโอดะ โนบุนางะ (ค.ศ. 1534-1582) แม่ทัพผู้เลื่องชื่อของญี่ปุ่น นางาระงาวะออนเซ็นตั้งอยู่ระหว่างเมืองใหญ่ที่มีประชากรมากอย่างนาโงยะและพื้นที่เขตภูเขาของจังหวัดกิฟุทางทิศเหนือ ที่นี่มีการผสมผสานระหว่างบ่อน้ำพุร้อน ประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมประเพณี และงานฝีมืออันน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาเพลิดเพลินได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไกล เนื่องจากนั่งรถไฟเพียงประมาณ 20 นาที หรือขับรถยนต์จากนาโงยะประมาณ 45 นาทีก็มาถึงเมืองกิฟุได้แล้ว
นางาระงาวะออนเซ็นเป็นสถานที่อันยอดเยี่ยมสำหรับการลงแช่บ่อน้ำพุร้อนริมแม่น้ำ จูฮาจิโระเป็นหนึ่งในโรงแรมและเรียวกังพร้อมบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ของที่นี่ ซึ่งให้บริการผู้ที่มาแช่น้ำร้อนและผู้ที่สนใจชมการจับปลาด้วยนกกาน้ำ (ดูเพิ่มเติมด้านล่าง) น้ำพุร้อนที่นางาระงาวะออนเซ็นขึ้นชื่อว่ามีธาตุเหล็กและกรดคาร์บอนิกสูง สีของน้ำจึงเป็นสีน้ำตาลแดง น้ำพุร้อนของที่นี่จะช่วยบรรเทาอาการปวดและตึงข้อ ทั้งยังช่วยคลายความอ่อนล้าได้ดี
บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งขนาดใหญ่ของจูฮาจิโระมีวิวที่งดงามจับใจเหนือแม่น้ำนางาระและภูเขาที่อยู่ทางทิศเหนือ คุระโนะยุของที่นี่มีน้ำพุร้อนสีน้ำตาลแดงผุดขึ้นมาภายในคลังสินค้าที่เก่าแก่ถึง 120 ปี สถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ในตอนนี้ได้กลายเป็นสถานที่ส่วนตัวสำหรับมาผ่อนคลายอารมณ์ในสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร
กล่าวกันว่าแม่น้ำนางาระที่มีความยาว 166 กิโลเมตรนี้เป็นหนึ่งในสามแม่น้ำที่มีน้ำใสสะอาดที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นจุดที่ผู้คนนิยมมาแช่น้ำกันเนิ่นนานแล้ว ที่แห่งนี้คือสถานที่ชั้นยอดในการจับปลาอายุด้วยนกกาน้ำที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี การจับปลาด้วยนกกาน้ำหรืออุไค มีประวัติศาสตร์และขนบธรรมเนียมยาวนานกว่า 1,300 ปี โดยชาวประมงผู้ใช้วิธีจับปลาด้วยนกกาน้ำนี้จะได้รับการอุปถัมภ์จากสำนักพระราชวัง ชาวประมงจะแต่งกายด้วยชุดตามประเพณี ออกเรือไม้ทรงยาวในเวลากลางคืน พร้อมกับแขวนกระถางคบไฟที่ลุกโชติช่วงไว้ตรงหัวเรือเพื่อให้ห้อยอยู่เหนือแม่น้ำ แสงจากเปลวไฟจะดึงดูดปลาอายุและปลาอื่นๆ ในแม่น้ำ จากนั้นชาวประมงก็จะปล่อยนกกาน้ำนับสิบตัวลงไปในแม่น้ำ บ่วงที่ยืดหยุ่นและไม่สร้างความเจ็บปวดจะถูกผูกคล้องไว้บนคอนกกาน้ำเพื่อดักปลาไว้ที่ถุงใต้คอของนก ทำให้ชาวประมงสามารถนำปลาออกมาได้ในภายหลัง
นักท่องเที่ยวสามารถชมการจับปลาใต้เปลวเพลิงที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ได้จากบนเรือนำเที่ยว นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังเพลิดเพลินกับปลาอายุที่เพิ่งจับสดๆ ได้ในมื้ออาหารหลายคอร์สแบบไคเซกิตามฤดูกาลที่โรงแรมต่างๆ ในพื้นที่ เช่น ร้านอุโชโนะอิเอะซูงิยามะ ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำใกล้กับบริเวณที่นักจับปลาด้วยนกกาน้ำ หรืออุโช ทั้งหกคนกับนกของพวกเขาอาศัยอยู่ การอนุรักษ์ขนบประเพณีนี้ไว้ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชาวประมง แม้ว่าประชากรของญี่ปุ่นจะลดลงเรื่อยๆ ก็ตาม
“เอกลักษณ์เฉพาะของการจับปลาด้วยนกกาน้ำในแม่น้ำนางาระก็คือ มันเป็นอาชีพที่สืบทอดกันรุ่นสู่รุ่น” ชูจิ ซูงิยามะ ชาวประมงรุ่นที่หกได้กล่าวไว้ว่า “เด็กผู้ชายที่เกิดมาในครอบครัวนักจับปลาด้วยนกกาน้ำจะถูกคาดหวังว่าต้องสืบทอดประเพณีนี้”
เรือจับปลาด้วยนกกาน้ำไม่ได้เป็นงานฝีมือดั้งเดิมเพียงอย่างเดียวในแม่น้ำนางาระ ถัดมาทางปลายน้ำจากนางาระงาวะออนเซ็น ก็จะพบกับเรือข้ามฟากโอเบนิโนะวาตาชิที่ให้บริการฟรี เรือไม้ทรงยาวเหล่านี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อสมัยศตวรรษที่ 17 ใช้คนคุมเรือเพียงหนึ่งคน และในสมัยก่อนนั้นเคยใช้เพียงลำไม้ไผ่ยาวๆ ท่อนเดียวในการบังคับเรือด้วย ปัจจุบัน เมืองกิฟุเป็นผู้ดำเนินการเรือข้ามฟาก เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนที่ต้องการข้ามแม่น้ำเพื่อไปยังวัดซุยโกซังอชชินจิ วัดพุทธอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำทางทิศใต้ วิธีการเดินทางอันเป็นเอกลักษณ์และสงบเงียบนี้เป็นวิธีอันแสนรื่นรมย์ซึ่งแตกต่างจากการเดินทางแบบรวดเร็วที่เร่งรีบในปัจจุบัน
ที่ด้านล่างของภูเขาคินกะ ริมฝั่งทางทิศใต้ของแม่น้ำนางาระงาวะ คุณจะได้พบกับร้านขายงานฝีมือและบ่อน้ำพุร้อน ที่ต้นแม่น้ำเป็นที่ตั้งของเมืองมิโนะซึ่งเป็นย่านผลิตกระดาษญี่ปุ่นแบบทำมือจากโคโซ (ปอสา) ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 1,300 ปี กระดาษมิโนะวาชิจากเมืองมิโนะซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำนางาระจึงถูกใช้อย่างแพร่หลายในการวาดภาพ พิมพ์ลาย ทำประตูบานเลื่อน (โชจิ) ร่มกระดาษเคลือบน้ำมัน และโคมไฟกระดาษ กระดาษนี้ยังถูกใช้สำหรับการซ่อมแซมภาพวาดที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ และใช้ทำประกาศนียบัตรสำหรับงานโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ปี 2020 ด้วย ที่สะพานนางาระ คุณจะรู้สึกราวกับได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) ที่บนถนนมีร้านค้าไม้หลังคากระเบื้องซึ่งเต็มไปด้วยสินค้างานฝีมือดั้งเดิมตั้งเรียงราย
เช่น ร้านนางาระงาวะดีพาร์ต (Nagaragawa Depart) ขายงานฝีมือของภูมิภาค และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตั้งแต่เหล้าสาเกญี่ปุ่นระดับพรีเมียมไปจนถึงเขียงไม้คุณภาพสูง และโคมไฟกระดาษอิซามุโนงุจิ อีกร้านที่อยู่ห่างไปไม่ไกลซึ่งอุทิศให้กับงานฝีมือจากกระดาษคือร้านคาซะ (Casa) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการทำร่มจากกระดาษวางาซะวาชิคุณภาพสูง ทั้งแบบที่สามารถกันน้ำได้ในวันที่ฝนตก และร่มกันแดดฮิงาซะสำหรับวันที่แดดจ้า
“วางาซะเป็นร่มที่ทันสมัยและสามารถใช้ได้ในทุกวันซึ่งเหมาะสำหรับทุกคน” อิกุมิ คาวางุจิ ผู้จัดการร้านคาซะกล่าว “แน่นอนว่า ร่มแบบตะวันตกอาจใช้ได้สะดวกกว่า แต่เราก็อยากให้ลูกค้าได้สนุกกับร่มวางาซะไม่ว่าจะในวันที่ฝนตกหรือแดดออก”
ของหวานและความยั่งยืนที่เกโระออนเซ็น
นักท่องเที่ยวที่ผจญภัยขึ้นไปทางเหนือของกิฟุจะได้พบกับสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจนเมื่อเดินทางลึกเข้าไปในภูเขา เริ่มจากเมืองน้ำพุร้อนเกโระ เมืองในภูเขาซึ่งตั้งคร่อมอยู่บนแม่น้ำฮิดะ และสามารถเดินทางไปได้ง่ายด้วยรถไฟจากนาโงยะโดยใช้เวลาเพียง 90 นาที
เกโระออนเซ็นปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ย้อนกลับไปถึงสมัยศตวรรษที่ 8 ออนเซ็นแห่งนี้เป็นหนึ่งในสามบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้ เกโระออนเซ็นหรือบ่อน้ำพุร้อนเกโระในกิฟุยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยสถานที่ท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของโลกโดย Green Destinations หน่วยงานรับรองมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับสากล ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวสมัยใหม่ที่ต้องการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ บ่อน้ำพุร้อนของที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำที่มีความนุ่มลื่น และได้ชื่อว่าเป็น “น้ำพุร้อนแห่งความงาม” เพราะทำให้ผิวของผู้แช่เนียนนุ่มไม่แพ้กัน พื้นที่รอบเกโระเหมาะสำหรับการปั่นจักรยาน และเป็นที่รู้จักจากน้ำตกฮิดะโอซากะที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของน้ำตกอื่นๆ อีกกว่า 200 แห่ง และหมู่บ้านเขาวงกต (Maze Village) หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
หากคุณกำลังมองหาความหรูหราแบบเต็มขั้น ขอแนะนำให้ไปที่ซุยเมกัง โรงแรมบ่อน้ำพุร้อนที่อลังการที่สุดในเกโระด้วยห้องพักจำนวน 264 ห้อง และประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเกือบ 100 ปี ระหว่างทางสั้นๆ จากสถานีเกโระไปถึงบ่อแช่เท้าของเมือง คุณจะได้เห็นทั้งแม่น้ำฮิดะและสวนที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม รวมถึงโรงน้ำชาชาชิตสึ เกสต์เฮาส์ และสระน้ำที่มีปลาคาร์ปสีสันสวยงามแหวกว่ายอยู่เต็มสระ นอกจากบ่อน้ำพุร้อนส่วนตัวและซาวน่าแล้ว ซุยเมกังยังมีบ่อแช่น้ำสาธารณะขนาดใหญ่สามแห่ง เช่น บ่อน้ำพุร้อนในห้องที่กรุด้วยไม้สนไซเปรส และโรเท็นบุโระ (บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง) อันกว้างขวางที่เรียงรายด้วยหินขนาดใหญ่ หลังจากแช่น้ำแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารแบบไคเซกิในห้องพักปูเสื่อทาตามิแบบดั้งเดิมพร้อมชมวิวแม่น้ำแบบเต็มๆ ตา
“เนื่องจากเรามีอาคารหลักสี่หลัง และแต่ละหลังก็มีบ่อน้ำพุร้อนสาธารณะขนาดใหญ่ แขกผู้มาใช้บริการจึงสามารถตระเวนแช่ออนเซ็นภายในบริเวณโรงแรมได้เลย” คาซูฮิโระ โยชิดะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของโรงแรมซุยเมกังกล่าว “นอกจากบริการเสิร์ฟอาหารในห้องพักแล้ว เรายังมีทั้งห้องอาหารญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และจีนด้วย แขกทุกท่านจึงสามารถเลือกทานอาหารได้ตามความชอบขณะที่เข้าพักในโรงแรมของเรา”
เมื่อคุณพร้อมออกสำรวจพื้นที่หลังจากการแช่ออนเซ็น คุณสามารถเดินชมรอบเมือง หรือจะใส่ชุดยูกาตะเดินเล่นก็ได้ถ้าคุณต้องการ แล้วแวะแช่เท้าในบ่อแช่เท้าสาธารณะสักแห่งแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้เกี่ยวกับการแช่น้ำในเกโระคือการไปแช่เท้าที่ฟุนเซ็นจิ บ่อแช่เท้ากลางแจ้งที่ทำจากหินซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำฮิดะ ใกล้กับสะพานเกโระโอฮาชิที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเกโระก็คือบ่อแช่เท้าที่ให้ความรู้สึกปลอบประโลม ที่นี่เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการชื่นชมภูเขาที่อยู่รายล้อม และดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์งดงาม
หากอยากรู้ว่าเกโระจริงจังแค่ไหนเรื่องน้ำพุร้อน ให้ข้ามสะพานแล้วเดินไปที่ศาลเจ้าบ่อน้ำพุร้อนเกโระ ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโตที่อุทิศให้แด่บ่อน้ำพุร้อนท้องถิ่นโดยมีสิงโตหินสองตัวคอยปกปักรักษาอยู่ เดินต่อไปตามถนนและบริเวณเชิงเขาที่ต่ำที่สุดเหนือเมือง คุณจะได้พบกับวัดออนเซ็นจิที่อุทิศให้แด่ยากุชิ เนียวไร พระพุทธเจ้าแห่งการแพทย์และการรักษาโรค ซึ่งมีตำนานเล่าว่าพระองค์เป็นผู้บอกแหล่งบ่อน้ำพุร้อนให้ชาวบ้านท้องถิ่นโดยปลอมตัวเป็นนกกระยางขาว คุณสามารถเข้าถึงวัดได้โดยผ่านบันไดหิน 173 ขั้น จากบริเวณวัดคุณจะได้เห็นวิวอันกว้างไกลของเมืองเกโระ และจะงดงามเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ร่วงยามเมื่อใบเมเปิลสีแดงสว่างไสวด้วยไฟประดับในยามค่ำคืน
หากคุณต้องการหยุดพักหรือชาร์จพลังหลังจากเดินขึ้นเขาไปที่วัด ที่ศาลเจ้าบ่อน้ำพุร้อนเกโระก็มีบ่อแช่เท้าให้บริการอยู่ในร้านของหวานด้วย สำหรับสายของหวาน เกโระเป็นเมืองที่คุณจะต้องหลงรัก ร้านยูอามิยะเสิร์ฟขนมหวานแสนอร่อยที่มีชื่อเรียกว่า ออนทามะโซฟุโตะ ซึ่งย่อมาจาก ออนเซ็นทามาโกะโซฟุโตะคุริอิมุ เป็นไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟที่มาพร้อมไข่ต้มในน้ำพุร้อนและเกล็ดข้าวกล้อง ของหวานที่ทำจากนมนี้มีรสธรรมดาและรสซอสมิโซะให้เลือก นอกจากนี้ยังมีพุดดิ้งฮงวากะเนื้อเนียนนุ่ม รสเข้มข้น ที่ถูกนำไปนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนท้องถิ่น
หากคุณยังไม่จุใจกับของหวาน แนะนำให้มุ่งหน้าไปตามถนนเพื่อไปยังร้านเกโระ เกโระ บัตเตอร์สแตนด์ (Gero Gero Butter Stand) อีกร้านขนมหวานที่มีบ่อแช่เท้าให้บริการ ซึ่งตกแต่งด้วยน้องวัวพลาสติกที่กำลังแช่น้ำอย่างเพลิดเพลิน ตัวร้านดูเหมือนกับกำลังจะจมในม่านเนยที่กำลังละลาย ซึ่งเหมาะมากเพราะร้านนี้มีเมนูขึ้นชื่อเป็นแซนด์วิชไส้ครีมเนย ขนมรสเนยเหล่านี้เข้ากันสุดๆ กับกาแฟหรือชา นอกจากนี้ยังมีหลากหลายรส เช่น พิสตาชิโอ ลูกเกด และเบอร์รี
ดื่มด่ำกับธรรมชาติและขนบธรรมเนียมประเพณีที่โอกุฮิดะออนเซ็นโง
มุ่งหน้าต่อไปทางเหนือของกิฟุ โอกุฮิดะออนเซ็นโงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบ่อน้ำพุร้อนในสภาพแวดล้อมที่เป็นหินมากขึ้น โดยมีย่านน้ำพุร้อนที่หลากหลายให้เลือก ทำให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับความสันโดษท่ามกลางภูเขาแบบสบายๆ อันที่จริงแล้ว โอกุฮิดะเป็นหมู่บ้านน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่ถึงห้าเมือง ได้แก่ ฮิรายุ ชินฮิรายุ โทจิโอะ ฟูกุจิ และชินโฮตากะ ตามตำนานเล่าว่า เหล่านักรบได้ค้นพบฮิรายุออนเซ็นในศตวรรษที่ 16 เมื่อพวกเขาเห็นลิงสีขาวกำลังแช่น้ำรักษาบาดแผลในบ่อน้ำพุร้อน
ปัจจุบัน เมืองนี้เป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนขนาดเล็กๆ หลายแห่ง และมีสกีรีสอร์ตบนเนินเขา โนริกุระที่ดำเนินการโดยคนในท้องถิ่นด้วย ชินฮิรายุออนเซ็นตั้งอยู่ตรงข้ามกับฟูกุจิออนเซ็นโดยมีแม่น้ำทากาฮาระคั่นกลาง และมีน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศอันแสนผ่อนคลาย ชื่อของโทจิโอะออนเซ็น มาจากต้นเกาลัดม้า (โทจิ) ที่เคยขึ้นอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ออนเซ็นแห่งนี้เป็นที่รู้จักจากเกสต์เฮาส์ที่เสิร์ฟอาหารพื้นบ้านดั้งเดิมซึ่งประกอบด้วยผักภูเขาและปลาแม่น้ำสดๆ ฟูกุจิออนเซ็นเป็นที่ตั้งของโรงแรมขนาดเล็กและน้ำพุร้อนหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงน้ำพุร้อนไบคาร์บอเนตที่เชื่อว่าทำให้ผิวเรียบลื่น ชินโฮตากะตั้งอยู่ไกลที่สุดในหุบเขาและอยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่นทางตอนเหนืออันยิ่งใหญ่ มีชื่อเสียงจากยอดเขาที่มีรูปทรงคล้ายมีดของภูเขา ยาริงะตาเกะ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับห้าในญี่ปุ่น โดยมีความสูง 3,180 เมตร
หากต้องการชมธรรมชาติโดยรอบอย่างเต็มอิ่ม มีจุดชมวิวที่เยี่ยมที่สุดสองแห่งอยู่ในชินโฮตากะ สะพานคิตะแอลป์เป็นสะพานข้ามหุบเขาขนาดใหญ่ที่มีความยาวถึง 150 เมตร และตั้งอยู่เหนือลำน้ำสาขาของแม่น้ำทากาฮาระราว 70 เมตร จากบนสะพาน คุณจะได้ชมวิวรอบทิศทางที่งดงามชวนตะลึงเหนือหุบเขา รวมถึงมองเห็นยอดเขาที่อยู่ทางทิศตะวันตกด้วย
สะพานนี้เป็นทางไปสู่ชินโฮตากะโรปเวย์ กระเช้าลอยฟ้าที่จะพาผู้โดยสารไปยังจุดชมวิวและทางเดินในป่าที่ระดับความสูง 2,156 เมตร จุดชมวิวบนดาดฟ้าของสถานีนิชิโฮตากะงุจิเปิดให้บริการแม้ในฤดูหนาว คุณจะได้ชมวิวแบบ 360 องศาที่งดงามตระการตาของเทือกเขาโฮตากะ ซึ่งรวมถึงภูเขา นิชิโฮตากะ ภูเขา ยาริงะตาเกะ และภูเขา คาซางะตาเกะ ประสบการณ์ระดับ Michelin Green Japan นี้จะตราตรึงใจคุณไปอีกนานแสนนาน
สำหรับใครที่มองหาสถานที่หลบหนาว ขอแนะนำให้ไปที่ฟูกุจิออนเซ็น ชุมชนริมแม่น้ำขนาดเล็กแห่งนี้เป็นที่ตั้งของบ้านเกษตรกรเก่าแก่และสิ่งปลูกสร้างดั้งเดิมอื่นๆ ซึ่งมีอายุกว่า 100 ปี ที่ทาราโนกิอิซากายะ คุณจะได้สัมผัสกับการอบอุ่นร่างกายด้วยวิถีแบบโบราณ ไม่ใช่ด้วยการผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อน แต่ด้วยการทานอาหารร่วมกันรอบเตาอิโรริแบบดั้งเดิม ซึ่งอาจตั้งฝังลงในพื้น หรือตั้งบนเคาน์เตอร์พร้อมที่นั่ง ในบ้านเกษตรกรแบบดั้งเดิมนี้ ควันจากไฟจะลอยสูงขึ้นไปถึงคานค้ำหลังคา ซึ่งจะช่วยไล่แมลงต่างๆ ออกไปได้ด้วย อิโรริเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการเพลิดเพลินกับเหล้าสาเกร้อนสักถ้วย ปลาอายุย่าง และอาหารขึ้นชื่อของท้องถิ่น เช่น แปะก๊วยอบ และสเต๊กเนื้อวัวฮิดะ
เดินจากชินโฮตากะโรปเวย์ไปทางปลายน้ำ คุณจะได้พบโรงแรมชินโฮตากะออนเซ็นยามาโนะซึ่งตั้งอยู่เหนือแม่น้ำทากาฮาระ ภายนอกดูเป็นโรงแรมแบบตะวันตก และการตกแต่งภายในเป็นสไตล์มิดเซ็นจูรี ที่นี่เป็นตัวอย่างของที่พักประเภทหนึ่งที่มีในท้องถิ่น โรงแรมยามาโนะให้บริการห้องพักสไตล์ผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นกับตะวันตก จากห้องพักสามารถมองเห็นวิวของยอดเขาชินโฮตากะที่งดงามและกระเช้าลอยฟ้า โรงแรมยังมีระบบลิฟต์ขึ้นเขาของตัวเอง ซึ่งเป็นรถกระเช้าไฟฟ้าขนาดเล็กที่จะรับส่งแขกของโรงแรมไปกลับจากโรเท็นบุโระริมฝั่งแม่น้ำ ที่นี่ คุณจะสามารถดื่มด่ำกับวิวอันงดงามของเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่นขณะที่แช่กายคลายความเครียดไปพร้อมกับฟังเสียงแม่น้ำไหล ซึ่งเป็นหนึ่งในวิวขณะแช่น้ำพุร้อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในญี่ปุ่น และแน่นอนว่าเป็นหนึ่งในวิวที่ปลอบประโลมกายและใจได้ดีที่สุดด้วยเช่นกัน
“ที่ชินโฮตากะ เรามีน้ำพุร้อนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งผลิตน้ำพุร้อนถึง 4,000 ลิตรต่อนาที” เคนอิจิ ยามาดะ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนที่โรงแรมชินโฮตากะออนเซ็นยามาโนะกล่าว “พื้นที่นี้ยังมีโรเท็นบุโระมากที่สุดในประเทศด้วย”
ทริปนี้จะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้ไปเยี่ยมชมเมืองทากายามะ แหล่งน้ำพุร้อนที่มีชีวิตชีวาของอาณาจักรบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ เมืองนี้มีประชากรราว 88,000 คน มีศูนย์กลางอยู่ที่ถนนคนเดินสายโบราณในย่านประวัติศาสตร์ทากายามะ ซึ่งเรียงรายไปด้วยอาคารร้านค้าสร้างจากไม้ โรงกลั่นเหล้าสาเก และคาเฟ่ เทศกาลทากายามะมัตสึริจะจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนเมษายนและกลางเดือนตุลาคม เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ในงานจะมีขบวนรถแห่ไม้ที่ตกแต่งอย่างสดใสงดงาม และตุ๊กตาคารากุรินินเงียว
ตั้งแต่บ่อน้ำพุร้อนในภูเขาที่โอกุฮิดะ บ่อน้ำพุร้อนริมแม่น้ำในเกโระ นางาระงาวะออนเซ็น ไปจนถึงการตกปลาด้วยนกกาน้ำ กิฟุเป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนอันเป็นเอกลักษณ์และขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น คว้าผ้าขนหนูแล้วเตรียมพร้อมเพื่อไปพักผ่อนและปลดปล่อยกายใจในสถานที่อันยอดเยี่ยมที่สุดในญี่ปุ่นที่จังหวัดกิฟุกันเถอะ